ขอแบ่งปันความรู้สึกห่วงใยและรักประชาชน ของในหลวงท่านด้วย ๙ คำสอน ที่พระองค์ท่านมอบให้คนไทยตลอดมา...
๑. อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ
ในวงสังคมนั้นเล่า...ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงาม สำหรับสุภาพชนรู้จัก "สัมมาคารวะ" ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยน...แต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
๒. การเอาชนะใจตน
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริง...ว่าชั่ว...ว่าเสื่อม เราต้องฝืน...ต้องต้านความคิด และความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่น ที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็น...ความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ
๓. หนังสือเป็นออมสิน
หนังสือเป็นการสะสมความรู้แ ละทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมาทำมา...คิดมาแต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ "หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน" เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้
๔. ความเพียร
การสร้างสรรค์ตนเอง...การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่า...สร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ความอดทน คือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม "สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ...บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล คือ "ดูมันครึ" แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่ครึ" ต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้า จะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง
๕. ความรู้ตน
เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้ "รู้ตัว" การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบ และคนที่มีระเบียบดีแล้ว จำสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จ และความเจริญให้แก่ตนเอง และส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน
๖. คนเราจะต้องรับ และจะต้องให้
คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้...คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่า...ต่อไปและเดี๋ยวนี้ด้วย เมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติ ประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกัน ได้ช่วยที่ไหน...ได้ก็ช่วยด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้
๗. ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์สุจริต... "เป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง" เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง
๘. พูดจริง ทำจริง
ผู้หนักแน่นใน "สัจจะ" จะพูดอย่างไร...ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือ และความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่ายการพูดแล้วทำ คือ พูดจริง...ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม
๙. ความพอดี
ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้น จะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้นตามต่อกันไปเป็นลำดับ ...ผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน.